086-657-6281 , 02-257-6281 washington2_go@hotmail.com

แนะนำ library of congress คืออะไร

library-of-congress

หากท่านเคยได้ยินคำพูดที่ว่า หนังสือคือเพื่อนของเรา นั่นแสดงว่ามนุษย์เรานั้นได้ให้ความสำคัญกับการอ่านเป็นอย่างมาก ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาผู้คนส่วนใหญ่จะสามารถท่องโลกกว้างเพื่อศึกษาข้อมูลความรู้ที่ได้ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือที่หลากหลายโดยการอ่านหนังสือสักเล่มหนึ่งนั่นเอง ซึ่งแหล่งรวบรวมหนังสือที่สำคัญของแต่ละชุมชนนั่นก็คือหอสมุดนั่นเอง ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับวามสำคัญของหอสมุดกัน และในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกากัน ถ้าพร้อมแล้วก็มารู้จักกับสถานที่แห่งนี้ไปพร้อมกันเลย

หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่กล่าวถึงในข้างต้นนั่นก็คือหอสมุด Library of Congress ที่ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกานั่นเอง ซึ่งความเป็นมาของหอสมุดแห่งนี้ก็มีมาอย่างยาวนานกันเลยที่เดียว ซึ่งหอสมุดที่ว่านี้ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1800 ที่ก่อตั้งขึ้นโดยคำสั่งจากสภาโดยประธานาธิบดีในยุคสมัยนั้น โดยหอสมุดแห่งนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดก็เนื่องมาจากการที่ตั้งอยู่บนอาคารใหญ่ที่กินเนื้อที่กว่า 3 อาคาร ที่ตั้งอยู่ในวอชิงตันดีซี ที่ไว้ใช้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลสำคัญอย่างข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายของรัฐบาลและเอกสารสำคัญอื่นๆ เช่น หนังสือหรือสื่อสิ่งพิมพ์กว่า 32 ล้านรายการ ภาพถ่ายสำคัญ แผนที่ งานเขียน เอกสารสิทธิบัตร โน้ตเพลง ไปจนถึงหนังสือหายากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ The Bay Psalm Book ที่ตีพิมพ์เป็นครั้งแรก , The Children’s New Play-Thing ,เอกสารเก่าแก่เกี่ยวกับเรื่องบทสวด,เอกสารเกี่ยวกับงานเขียนจารึกเก่าแก่บนแผ่นหิน หรือเอกสารการดำเนินงานของประธานาธิบดีทั้ง 23 คน ไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวแต่ยังถือว่าเป็นสถานที่ที่ได้รวบรวมเอกสารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้มากมายเช่นกัน

แต่เมื่อหอสมุดได้เปิดทำการไปอีก14ปี ในปี 1814 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสูญเสียและน่าใจหายเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จนทำให้งานเขียนสำคัญและเอกสารสำคัญเกิดความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก แต่ภายหลังก็ได้มีการบูรณะปรับปรุงต่อมา ภายหลังจากเกินเหตุการณ์ 1 ปี สภาก็ได้ซื้อห้องสมุดต่อจาก โทมัส เจฟเฟอร์สัน อดีตประธานาธิบดีเพื่อทำเป็นที่ทำการหอสมุดแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่าของเดิมถึง 2 เท่า หลังจากนั้นมาก็ไม่มีเหตุการณ์ให้สูญเสียอีกแต่อย่างไรก็ดีหอสมุดแห่งนี้ก็ยังได้มีการปรับปรุงต่อมาเรื่อยๆ และให้หอสมุดมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นเพื่อดึงดูดให้ผู้คนหันมาสนใจศิลปะเนื้อหาทางประวัติศาสตร์มากยิ่งขึ้น จากวันนั้นจนถึงวันนี้เวลาก็ผ่านเลยมาหลายร้อยปีแต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังสามารถรักษามรดกของชาติได้นานเท่าถึงทุกวันนี้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมต่อไป